|
|
หน่วยความจำ (RAM)
- หน่วยความจำ
หรือมักจะเรียกกันว่าแรม (Random Access
Memory-RAM)
เป็นส่วนที่สำคัญที่พีซีทุกเครื่องจะต้องมี
หน่วยความจำมีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลชั่วคราว
เพื่อส่งไปให้ซีพียูประมวลผล
และเก็บข้อมูลที่ประมวลผลเรียบร้อยแล้วเพื่อรอส่งไปให้กับอุปกรณ์อื่น
ๆ ต่อไป เช่น
ฮาร์ดดิสก์หรือการ์ดแสดงผล แรม
จะมีความเร็วสูงกว่าฮาร์ดดิสก์มาก
ซึ่งจะมีหน่วยวัดความเร็วเป็นนาโนวินาที
(หนึ่งส่วนพันล้านวินาที)
ในขณะที่ฮาร์ด-ดิสก์จะมีหน่วยความเร็วเป็นมิลลิวินาที
ชนิดของแรม
- แรมที่ใช้เป็นหน่วยความจำของพีซีจะมีอยู่
3 ชนิด คือ ชนิด 30 pin, 72 pin และ 168 pin
ซึ่งปัจจุบัน
นี้คงจะไม่มีแรมชนิด 30 pin
ขายกันอีกต่อไปแล้ว
เพราะเป็นแรมรุ่นเก่าใช้เทคโนโลยีเก่าที่ผลิตกันมานานหลายปี
แรมที่มีขายกันในปัจจุบันก็จะเหลืออยู่
2 ชนิด คือ 72 pin และ 168 pin และแรมชนิด 72 pin
ก็เริ่มที่จะหมดไปจากตลาดแล้วเช่นกันเพราะมีแรมชนิด
168 pin
เข้ามาทอแทนด้วยประสิทธิภาพและความเร็วที่เหนือกว่าเพราะจะมีความกว้างของแถบสัญญาณที่กว้างกว่า
ทำให้สามารถส่งข้อมูลไปยังซีพียูที่มีความเร็วสูงได้รวดเร็ว
เพื่อที่ให้เหมาะสมกับความเร็วของซีพียู
มิเช่นนั้นแล้วก็อาจจะเกิดปัญหาที่เรียกกันว่าคอขวด
(Bottleneck)
ซึ่งเกิดจากการที่อุปกรณ์อื่นๆ
ส่งข้อมูลมาที่แรม
แต่แรมไม่สามารถส่งข้อมูลไปประมวลผลที่ซีพียูได้ทัน
ทำให้ข้อมูลที่ส่งมาค้างสะสมที่แรม
ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของพีซีช้าลงตามไปด้วย
- หลายคนอาจจะสงสัยว่า
แล้วแรมชนิด 30 72 และ 168 pin
แตกต่างกันตรงไหน
อย่างที่บอกไปแล้วว่าแรมชนิด 168 pin
จะมีความเร็วกว่าชนิด 72 และ 30 pin
ความแตกต่างกันอีกอย่างก็คือ
แรมชนิดเก่าที่มีความกว้างของแถบข้อมูลเพียง
8 บิตเท่านั้น ในขณะที่ชนิด 72 pin
มีความกว้าง 32 บิต และ 168 pin
มีความกว้างมากถึง 64 บิต
เมื่อความกว้างของแถบข้อมูลต่างกันอย่างนี้
ทำให้แรมที่มีความกว้างของแถบข้อมูลมากกว่าสามารถส่งข้อมูลได้ครั้งละมาก
ๆ
และสามารถใส่แรมได้ครั้งละแถวได้
- เมื่อพูดถึงแถวหรือ
bank ในการใส่แรม
จะขอขยายความพูดถึง bank
สักเล็กน้อย คือ bank
สำหรับใส่แรมบนเมนบอร์ดทั่วไปจะมีอยู่
2 bank แต่ละ bank สามารถใส่แรมได้ 4 แถว
เมื่อรวมกัน 2 bank
แล้วก็จะมีแรมทั้งหมดที่ใส่ได้ 8
แถว
แต่บนเมนบอร์ดรุ่นใหม่อาจลดเหลือเพียง
1 bank เท่านั้น
เพราะว่าไม่จำเป็นจะต้องใส่แรมให้ครบแถว
ยกตัวอย่างเช่น
พีซีที่ใช้ซีพียูเพนเทียมซึ่งจะใช้แถบข้อมูลที่มีความกว้าง
64 บิต ถ้าใช้แรมชนิด 72 pin
ที่มีความกว้างแถบข้อมูล 32 บิต
จะต้องใส่แรมชนิดนี้ 2 แถว
เพื่อให้ครบความกว้างข้อมูล 64
บิตไม่สามารถที่จะใส่แรมเพียงแถวเดียวได้
แต่ถ้าใช้แรมชนิด 168 pin
สามารถใส่แรมเพียงแถวเดียวได้
เพราะว่าแรมชนิดนี้มีความกว้างแถบข้อมูล
64 บิต
หน่วยวัดความเร็วของแรม
- แรมจะมีหน่วยที่ใช้วัดความเร็ว
คือ นาโนวินาที (NanoSecond) หรือ ns
ซึ่งแรมปกติทั่วไปก็จะมีความ
เร็วตั้งแต่ 70 จนถึง 50 ns
โดยตัวเลขน้อยที่สุดจะมีความเร็วสูงที่สุด
หรือผู้ผลิตบางรายอาจจะใช้ตัวเลขเพียงหลักเดียว
เช่น -7 ก็หมายถึง แรมที่ความเร็ว 70
ns และ -5 ก็คือ แรมที่มีความเร็ว 50 ns
นั่นเอง
- ในการซื้อแรมมาใช้งานนั้นมีข้อควรจำอยู่ข้อหนึ่ง
คือ
ควรจะซื้อแรมที่มีความเร็วเท่ากันมาใช้
เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น
หรือบางเครื่องอาจจะใช้งานไม่ได้ไปเลย
เช่นถ้าแรมเดิมมีความเร็ว -5 (50 ns)
ก็ควรจะซื้อแรมที่มีความเร็ว -5
เท่ากันมาใช้
เพราะถ้านำแรมที่ช้ากว่าหรือเร็วกว่าเดิมมาใช้
จะทำให้แรมที่มีช้ากว่าหรือเร็วกว่าเดิมมาใช้
จะทำให้แรมตัวที่ช้าไปหน่วงการทำงานของแรมตัวที่เร็วกว่า
ซึ่งอาจจะส่งผลให้การทำงานของแรมและซีพียูผิดพลาดได้
แรมเท่าไรจึงจะดี
?
- ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ทุกวันนี้
ขนาดของแรมที่เหมาะสมในการใช้งานกับวินโดวส์
95 น่าจะเป็น 32 เมกะไบต์
แต่ความจริงแรมเพียง 16
เมกะไบต์ก็สามารถใช้งานได้แล้ว
แต่มันก็จะให้ประสิทธิภาพที่ไม่ดีเท่าใดนักขอให้นึกว่า
"แรมยิ่งมากยิ่งดี"
เพราะจะทำให้วินโดวส์ 95
มีพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลไปประมวลผลได้มาก
และราคาแรมในปัจจุบันก็ได้ลดลงมาเป็นอย่างมากแล้ว
จากในอดีตที่จะมีราคาขายประมาณเมกะไบต์ละ
1000 บาท
และในตอนนี้อาจจะเหลือเมกะไบต์ละไม่ถึง
100 บาทแล้วก็ได้
การถอดแรมเก่าออก
- กราวน์ตัวเองเสียก่อน
- มองที่ตรงตำแหน่งด้านข้างของแถวแรมแต่ละแถวจะพบกับตัวล็อกที่เป็นอะลูมิเนียมขนาบข้างแรมอยู่
ให้ปลดตัวล็อกนี้โดยการดันตัวล็อกทั้งสองข้างออกไปด้านข้าง
- ดึงแรมออกมาในแนวเฉียง
ข้อควรระวังในการจับแรม
- ไม่ควรจับแรมบริเวณที่เป็นทองแดง
หรือส่วนที่เป็นคอนเน็กเตอร์ที่จะต้องเสียบลงไปในแผงแรมเพราะ
มืออาจจะสกปรก
ทำให้ส่วนของคอนเน็กเตอร์สกปรกตามไปด้วย
ควรจับบริเวณที่เป็นพลาสติกด้านข้างมากว่า
การติดตั้งแรม
- ทำการกราวน์ตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไฟฟ้าสถิตย์จับแรมบริเวณที่เป็นพลาสติกแล้วทำการเสียบลงไปในด้านที่อยู่ตรงกันข้ามกับตัวล็อก
ในแนวเฉียงประมาณ 45 องศา
- ดันด้านหลังของแรมไปที่ด้านหน้าให้ตัวล็อกสามารถล็อกเข้ากับแรมได้พอดีทั้งสองข้าง
ถ้าดันเข้าไปไม่ได้
อย่าพยายามฝืนให้ลองดึงออกมาใหม่แล้วดันเข้าไปใหม่อีกครั้งหนึ่ง
- ควรใส่แรมจากด้านในสุดก่อน
ทำให้สามารถใส่แรมได้ง่ายกว่าการใส่แรมจากด้านนอก
เพราะถ้าใส่แรมจากด้านนอกก่อน
จะทำให้ไม่สามารถใส่แรมที่อยู่ด้านในในแนวเฉียง
45 องศาได้
?
|
|