เคสและพาวเวอ์ซัพพลาย


เคสที่นิยมใช้กันในปัจจุบันนี้จะมีอยู่ 5 แบบ คือ

  • Full Tower
  • Medium Tower
  • Mini Tower
  • Destop
  • Slimline
เคสแบบ Full Tower จะมีรูปร่างสูงที่สุดในบรรดาเคสแบบ Tower และเคสแบบ Medium และ Mini ก็จะมีรูปร่างเล็กลงมาตามลำดับ โดยเคสชนิดนี้จะมีลักษณะสูงขึ้นไปด้านบนแต่เคสแบบ Desktop และ Slimline จะมีลักษณะราบตามแนวนอน สามารถวางาจอภาพบนเคสชนิดนี้ได้ ทำให้คุณสามารถประหยัดเนื้อที่ในการวางจอภาพบนเคสชนิดได้ ทำให้คุณสามารถประหยัดเนื้อที่ในการวางาจอภาพไปได้เป็นอย่างมาก แต่ข้อเสียคือ ถ้าคุณจะต้องเปิดฝาเคสเพื่อทำการใด ๆ ภายในเคส จะต้องยกจอภาพออกมาก่อนที่จะเปิดได้ เคสที่มีขนาดใหญ่จะมีข้อดีตรงที่สามารถเพิ่มอุปกรณ์ให้กับระบบได้มากกว่า เช่น อาจจะเพิ่มฮาร์ดดิสก์ตัวที่ 2 หรือ 3 เพิ่มซีดีรอม-ไดรว์ตัวที่สอง หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่น ๆ เช่น Zip Drive แบบติดตั้งภายใน เป็นต้น 
ปัจจุบันนี้ได้มีการออกแบบเมนบอร์ดและเคสในรูปแบบใหม่ ในชื่อว่า ATX ดังที่จะได้ยินคำว่า เมน- บอร์ดแบบ ATX และเคสแบบ ATX มากขึ้นในอนาคต เพราะได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อลบจดบกพร่องของการออกแบบเคสและเมนบอร์ดแบบเก่า ซึ่งจะมีการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ บนเมนบอร์ดและเคสไม่เหมาะสมสำหรับการทำงานของคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสักเท่าไร เนื่องมาจากว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้มีความเร็วในการทำงานสูง เมื่อความเร็วสูงขึ้นก็จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องความร้อนของซีพียูตามมา และเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์มีความเร็วสูง ก็จะต้องการเมนบอร์ดที่สนับสนุนความเร็วที่เพิ่มขึ้นมาด้วย ทำให้เป็นจุดกำเนิดของคำว่า ATX ขึ้นมา แต่ก็ยังมีผู้นิยมใช้เมนบอร์ดและเคสแบบ ATX กันไม่มากนัก เหตุที่ราคายังคงแพงกว่าเมนบอร์ดแบบธรรมดาอยู่มาก ซึ่งในอนาคตเมื่อมีผู้นิยมใช้มากขึ้น และมีผู้ผลิตเมนบอร์ดและเคสแบบ ATX มากขึ้น ก็น่าจะทำให้ราคาลดลงได้ 
พาวเวอร์ซัพพลายที่ใช้กันในปัจจุบัน คือ พาวเวอร์ซัพพลายที่มีกำลังไฟ 200 โวลต์เป็นอย่างต่ำ เพราะนับวันยิ่งมีอุปกรณ์ที่จะใช้ร่วมกันภายในคอมพิวเตอร์มากขึ้น จากในอดีตที่อาจจะใช้เพียงแค่ 200 โวลต์ก็เพียงพอแล้ว เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ก็มีเพียงแค่ฟล็อปปี้ดิสก์ และฮาร์ดดิสก์เท่านั้น แต่ปัจจุบันได้มีการผลิตอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้คอมพิวเตอร์มากขึ้น เช่น ซีดีรอมไดรว์และ Zip Drive แบบติดตั้งภายใน เป็นต้นนอกจากนั้นก็ยังสนับสนุนการติดตั้งฮาร์ดดิสก์ได้ถึง 4 ตัว ทำให้ยิ่งต้องการใช้ไฟเพิ่มขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 
การติดตั้งพาวเวอร์ซัพพลายเข้ากับเคสก็ไม่ได้มีความยุ่งยากอะไร เพราะส่วนมากเวลาซื้อเคสมาใหม่ก็จะติดตั้งพาวเวอร์ซัพพลายมาให้อยู่แล้ว แต่ถ้าจะต้องติดตั้งด้วยตัวเองเพียงแต่ดูว่า ตรงไหนคือตำแหน่งที่จะวางตัวพาวเวอร์ซัพพลายลงไป คือ ตำแหน่งที่ด้านหลังของเคส จะมีตำแหน่งให้ใส่น็อตลงไปได้ 4 ตัวพอดี ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ด้านบนของตัวเคส หรือถ้าเป็นเคสแบบ Desktop ก็จะอยู่ด้านขวาของเคส แต่ถ้าต้องการให้ซีพีมีพลังไฟใช้อย่างเหลือเฟือ ก็สามารถซื้อหามาใช้ได้ โดยอาจจะเป็นพาวเวอร์ซัพพลายขนาด 220 หรือ 230 โวลต์ และการติดตั้งก็เหมือนเดิม 

?